blazer da polícia
blazer da polícia
Verified by App
Verified by App
60165K reviews
Downloads
Rated for 60165+
blazer da políciaอันยองแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกท่าน มาพบเจอกับ “นูน่าเมี้ยน” อีกเช่นเคยนะคะ และแน่นอนเจอกันแบบนี้ต้องมาพร้อมกับความเอ็กซ์คลูซีฟของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์ที่จะมาอัปเดตผ่านคอลัมน์ปังๆ อย่าง “SeoulStation” ซึ่งในสัปดาห์นี้นูน่าก็ยังขนเอาความพิเศษมาฝากอีกเช่นเคยกับเรื่องราวของรายการวาไรตี้แบบไม่มีสคริปต์จากเกาหลี “Jinny’s Kitchen 2” ที่จะพาไปตามติดภารกิจเปิดร้านอาหารเกาหลีในต่างประเทศของเหล่านักแสดงชื่อดัง ซึ่งเป็นรายการซีซั่นใหม่ต่อเนื่องจากซีซั่นแรกที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ชม โดยในซีซั่นที่แล้วมีนักแสดงที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ “อีซอจิน”, “จองยูมี”, “พัคซอจุน”, “ชเวอูชิก” และ “วี” จากวง “BTS” โดยพวกเขาได้ร่วมกันเปิดร้านอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลีในเมืองบาคาลาร์ ประเทศเม็กซิโก ส่วนในซีซั่นใหม่พร้อมให้รับชมแล้วบน Prime Videoและจะมี “อีซอจิน”, “จองยูมี”, “พัคซอจุน”, “ชเวอูชิก” และสมาชิกคนใหม่อย่างนักแสดงสาว “โกมินซี” ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานการแสดงจากซีรีส์ “Youth of May” มาร่วมทีมในฐานะน้องใหม่อีกด้วย โดยซีซั่นนี้ พวกเขาจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเปิดร้านอาหารเกาหลีในเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีการเปลี่ยนเปลี่ยนชวนติดตามหลายอย่าง ตั้งแต่บทบาทหน้าที่ใหม่ เมนูอาหารใหม่ และการปรับเปลี่ยนบางอย่างในครัว ผู้ชมจะได้เพลิดเพลินไปกับเคมีที่เข้ากันระหว่างนักแสดง การผจญภัยเพื่อเปิดร้านในสถานที่ใหม่ และทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเรคยาวิก งานนี้ “นูน่าเมี้ยน” ก็มีโอกาสได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวรายการ “Jinny’s Kitchen 2” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา นูน่าเลยไม่พลาดที่จะนำบทสัมภาษณ์สนุกๆ ของพวกเขามาฝากกันก่อนที่จะได้รับชมรายการกันด้วย! ตั้งแต่จบ “Jinny’s Kitchen” ซีซั่นแรก แฟนๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะได้ชมซีซั่นสองกันเยอะมาก ในฐานะโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ คุณรู้สึกยังไงบ้างที่ในที่สุดก็ได้กลับมาแล้ว? นายองซอก : “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าจะกังวลนะครับ เพราะว่านี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งกับนักแสดงทีมเดิมที่เคยทำงานด้วยกันมาก่อน ในซีซั่นนี้เราได้สมาชิกใหม่อย่างโกมินชีมาร่วมทีมด้วย ก็เป็นอีกเรื่องที่ตื่นเต้นและยินดีมากครับที่จะได้นำเสนอให้คนดูได้เห็นว่าเธอสร้างการเปลี่ยนแปลงในทีมของเรายังไงบ้าง” สำหรับสมาชิกเดิมของร้าน “Jinny’s Kitchen” พวกคุณรู้สึกยังไงบ้างที่ในซีซั่นนี้สมาชิกในทีมจะได้ผลัดกันเป็นเชฟ และต้องทำเมนูพิเศษของตัวเอง? พัคซอจุน: “การที่เราได้เปลี่ยนบทบาททุกวันคือสิ่งที่ผมชอบในซีซั่นนี้เลยครับ มันทำให้รู้สึกสดชื่นไม่จำเจ เวลาอยู่นอกครัวผมจะรู้สึกกดดันน้อยลง และพอได้ทำงานในครัวบ้าง นอกครัวบ้าง ก็ทำให้ได้สัมผัสความกดดันและประสบการณ์ที่ต่างกันออกไปด้วย” จองยูมี: “ฉันเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่ในครัวมากกว่าหน้าร้าน แม้ว่าตอนที่เดินเข้าครัวครั้งแรกจะรู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่แป๊บเดียวก็ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับมัน แล้วก็รู้สึกสบายใจเวลาอยู่ในครัวมากกว่า ดังนั้นก็เลยคิดว่าจุดเด่นของตัวเองน่าจะเป็นความมั่นใจและไม่กังวลเวลาอยู่ในครัวค่ะ” ชเวอูชิก: “ซีซั่นนี้ผมได้เลื่อนตำแหน่งจากเด็กฝึกงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ แล้วก็ได้เป็นเชฟเลยทันที ก็เลยคิดว่าตัวเองคงยังไม่ได้จุดแข็งอะไรเท่าไรหรอกครับ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วผมกดดันมากเลย เพราะถึงยังไงมันก็เป็นการเปิดร้านอาหารจริงๆ ดังนั้นในฐานะเชฟผมจะทำพลาดไม่ได้ มันทำให้ผมกดดันแต่ในขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้จากการสลับสับเปลี่ยนหน้าที่ในแต่ละวัน อีกอย่างคือผมมีซูเปอร์พนักงานฝึกหัด (โกมินชี) มาทำงานด้วย เธอช่วยผมได้เยอะมากเลยครับ” “นายองซอก” คุณพอจะเล่าเรื่องการคัดเลือกพนักงานฝึกหัด น้องเล็กคนใหม่ของทีมให้ฟังหน่อยได้ไหม คุณคิดว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่าง “โกมินชี” กับ “แทฮยอง” (วี BTS) พนักงานฝึกหัดของซีซั่นที่แล้วบ้าง? นายองซอก: “เราใช้ความพยายามอย่างมากเลยครับในการมองหาสมาชิกน้องใหม่ โกมินชีเป็นนักแสดงที่เก่งและประสบความสำเร็จมาก แล้วเราก็ค้นพบด้วยว่าเธอไม่ได้เริ่มต้นอาชีพแรกของเธอไม่ใช่การเป็นนักแสดง แต่เคยทำงานหลายอย่างมาก่อน เธอเคยทำงานในบริษัทรับจัดงานแต่งงานมาก่อนด้วย ดังนั้นพอเห็นประวัติการทำงานที่โดดเด่นของมินชี เราก็เลยติดต่อไปหาเธอเพราะคิดว่านี่คือคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบริษัทของเรา และเธอก็ตอบตกลงมาร่วมทีมกับเราครับ” “จองยูมี” คุณมีประสบการณ์ในร้านอาหารมาเยอะมาก ช่วยเล่าบรรยากาศในกองให้ฟังหน่อย และคุณมีแผนที่จะแยกตัวไปทำร้านของตัวเองในอนาคตหรือเปล่า? จองยูมี: “เนื่องจากเราทำงานด้วยกันมานาน ถึงแม้ว่างานจะเยอะแต่บรรยากาศในกองก็ดีมากๆ เลยค่ะ เราช่วยเหลือและพึ่งพากันตลอด ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่น่ารักใจดีทั้งนั้นเลย ส่วนเรื่องการแยกตัวออกไปเป็นอิสระ บอกตรงๆ เลยค่ะว่าฉันคิดว่าตัวเองไม่มีความเป็นผู้นำเท่าไร จริงๆ คือฉันอยากทำงานให้คุณซีอีโออีซอจินมากกว่าจะเป็นซีอีโอเองนะคะ” “พัคซอจุน” ในตัวอย่างรายการคุณทำงานหนักมากจนอยากจะให้ช่อง tvN มีรางวัลธุรกิจร้านอาหารดีเด่นมอบให้พวกคุณเลยทีเดียว อยากรู้ว่าถ้าคุณได้เป็นหนึ่งในแคนดิเดต ใครคือคู่ต่อสู้ของคุณคะ? พัคซอจุน: “เอาจริงๆ ผมคิดว่าบรรยากาศมันคงพาไปตอนที่ผมพูดน่ะครับ (หัวเราะ) พอรับออร์เดอร์ในครัวไปนานถึงจุดหนึ่ง จู่ๆ ความคิดนี้มันก็แวบเข้ามา อีกอย่างคือตอนนี้มีรายการที่เกี่ยวกับร้านอาหารหลายรายการเลย ดังนั้นถ้าจะต้องแข่งกับใคร ผมคิดว่าผมขอแข่งกับตัวเองใน Jinny’s Kitchen ซีซั่นที่แล้วก็พอครับ เพราะว่าตอนไปไอซ์แลนด์รอบนี้ผมเริ่มรู้สึกว่ารักษาพลังงานไว้ไม่ค่อยได้ เมื่อก่อนเวลาเหนื่อย ผ่านมาอีกวันผมก็รู้สึกโอเคแล้ว แต่ซีซั่นนี้วันต่อมาผมยังเหนื่อยมากอยู่เลยครับ ดังนั้นผมขอแค่แข่งกับตัวเองเมื่อปีสองปีที่แล้วให้ได้ก็พอครับ “โกมินชี” คุณรู้สึกมั่นใจตลอดเลยไหมเวลาทำอาหาร รู้สึกยังไงบ้างกับการทำงานร่วมกับสมาชิกในทีมแต่ละคน? โกมินชี: “ฉันไม่ได้มั่นใจในการทำอาหารเลยค่ะ ฉันแค่ทำในสิ่งที่พวกเขาบอกให้ทำและทำให้เร็ว นั่นคือสิ่งที่ฉันมั่นใจค่ะ ฉันเคยเจอพี่อูชิกกับพี่ยูมีมาก่อน ส่วนซีอีโออีซอจินก็เป็นคนตลกมากเลยค่ะ ฉันรู้สึกแปลกใจมากที่ได้รู้ว่าเขาตลกขนาดไหน เขาเป็นคนพูดน้อยแต่ว่าตลกมาก มุกที่เขาพูดออกมาแบบไม่แยแสมันฮามาก ส่วนพี่ยูมี ฉันต้องพึ่งพี่เขาหลายอย่างเลยค่ะ ฉันดีใจที่ได้เป็นลูกน้องของพี่ ตอนที่พี่ยูมีได้เป็นเชฟประจำวัน ฉันจะรู้สึกสงบและโล่งใจ อีกอย่างคือพี่เขาหั่นผักสวยมากเลยค่ะ แล้วคุณจะได้เห็นในรายการ สำหรับพี่ซอจุน ฉันรู้สึกได้ถึงพลังของเขาแค่มองจากข้างหลังเลยค่ะ ทั้งความจริงใจ แพสชั่น และพลังงานที่ใส่ลงไปในการทำอาหาร ฉันรู้สึกนับถือพี่เขาที่สุดเลยค่ะ แล้วเขาก็ทำงานเร็วมากด้วย เหมือนกับว่าพี่เขามีตามองเห็นได้จากทุกทางอะไรอย่างนั้น ส่วนพี่อูชิก เขาเป็นคนตลกค่ะ ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลยเวลาอยู่กับเขา (หัวเราะ) มันทำให้ฉันถ่ายรายการได้แบบไม่เกร็ง อีกอย่างคือเขาจะเข้ามาเช็กตลอดว่าฉันเป็นยังไงบ้าง ได้กินน้ำบ้างหรือยัง อะไรแบบนี้” สุดท้ายนี้ อยากให้ตัวแทนทีมนักแสดง ฝากผลงานกับผู้ชมสักหน่อย? ชเวอูชิก: “ครั้งนี้พวกเราบินไปไกลกันถึงไอซ์แลนด์เลย เพื่อให้คนดูได้ชมรายการที่สนุกสนาน ผมหวังว่ารายการของเราจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับคนดู และช่วยให้คุณเย็นใจในฤดูร้อนที่อบอ้าวนะครับ” โกมินชี: “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าร่วมรายการ Jinny’s Kitchen 2 ในฐานะมักเน่ซูเปอร์เด็กฝึกงานของทีม (maknae superintern) ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ อยากจะให้ทุกคนติดตามการทำงานของฉันและส่งกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ” บอกเลยว่าแค่อ่านบมสัมภาษณ์ก็สนุก และน่าดูขนาดนี้แล้ว และต่อไปนี้ “นูน่าเมี้ยน” จะสรุป 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดชมซีซั่นที่สองของรายการวาไรตี้ยอดฮิตรายการนี้! 1. บรรยากาศถ่ายทำในดินแดนใหม่ “ไอซ์แลนด์” ซึ่งที่นั่นไม่มีร้านอาหารเกาหลีที่เจ้าของเป็นคนเกาหลีเลย และเนื่องจากเป้าหมายของรายการคือการแบ่งปันอาหารเกาหลีในต่างประเทศ จึงเลือกที่จะเปิดร้านอาหารในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์แห่งนี้ นอกจากนี้วิวทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะของไอซ์แลนด์ ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีหลีกหนีจากฤดูร้อนที่อบอ้าวที่ไม่เลวเลย 2. “เคมีที่สั่งสมยาวนาน” จนกลายเป็นมิตรภาพเหนียวแน่นที่หาไม่ได้ง่ายๆ ทีมนักแสดงของ Jinny’s Kitchen 2 เคยร่วมงานกันมาก่อนในรายการอื่นๆ เช่น รายการ Youn’s Kitchen 3. เด็กฝึกงานน้องใหม่ “โกมินชี” นอกจากทีมนักแสดงที่แฟนๆ หลงรักและคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ในซีซั่นนี้เรายังจะได้พบกับเด็กฝึกงานคนใหม่ที่มาเข้าร่วมทีมอย่าง โกมินชี อีกด้วย 4. “เชฟประจำวัน” อีกหนึ่งมิติใหม่ที่จะสร้างความเพลินใจให้ผู้ชมในซีซั่น ก็คือการได้เห็นสมาชิกในทีมผลัดกันเป็นเชฟประจำวัน 5. “มากกว่าแค่ร้านอาหาร” แต่คือประสบการณ์อบอุ่นใจ Jinny’s Kitchen 2 นั้น แตกต่างจากรายการร้านอาหารทั่วๆ ไปที่คุณเคยได้รับชม การเดินทางของเหล่านักแสดง จะทำให้คุณเกิดอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายและประสบการณ์ฟีลกู๊ดกลับไป ได้รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารีรอ ไปรับชม Jinny’s Kitchen 2 กันเลย ที่ Prime Video เท่านั้น!. คอลัมน์ “SeoulStation”โดย “นูน่าเมี้ยน”
blazer da políciaเมื่อวันที่ 6 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.67 น.ส.กุลธิดา หรือน้องยี่หวา สุทธิประภา อายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร ที่ขายไก่ทอดช่วยแม่ใน จ.สมุทรปราการช่วงวันหยุด ซึ่งกลายเป็นไวรัลดังชั่วข้ามคืน จากการที่มีใบหน้าคล้ายนักร้องสาวคนดัง LISA Black Pink หรือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล นั้น ล่าสุด น้องยี่หวา ได้โพสต์คลิปลงใน TikTok @yiwalisu ซึ่งเพิ่งเปิดช่องใหม่เป็นของตัวเอง โดยโพสต์คลิปบรรยากาศขณะถ่ายทำเอ็มวีที่เยาวราช คัฟเวอร์เป็นลิซ่า กำลังเต้นเพลง ROCKSTAR ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของลิซ่า ประเดิมค่าย LLOUD อยู่ จนกลายเป็นไวรัลในโลกโซเชียล เพียงแค่วันเดียว มีผู้เข้ามาชมแล้วกว่า 6 ล้านครั้ง โดยภายหลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ไป มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจน้อง เป็นจำนวนมากด้วย. หนูมีพี่ลิซ่าเป็นไอดอล????????????@LISA rockstar lisa เยาวราช น้องยี่หวา น้องไก่ทอด ขอบคุณ
blazer da polícia‘สอง ณัชชา’ คว้าบิกินีจิ๋วอวดหุ่นสะเด็ด ทำเลือดสูบฉีดแรงขั้นสุด!
blazer da políciaยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนติดตามและให้ความสนใจหนักมาก หลังจากคู่รักจากภาพยนตร์ดังเรื่อง “เฟรนด์โซน” อย่าง ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก และ นาย ณภัทร ที่หลายคนลุ้นให้ความรักของทั้งคู่ข้ามจากการเป็นเพื่อน เลื่อนมาเป็นแฟนจริงๆ แบบให้หนัง จนทั้งสองคนได้ปลูกต้นรักและคบกันจริง กระทั่งกลายเป็นคู่รักที่หลายคนยินดีกับทั้งคู่หนักมาก ภายหลังจาก ใบเฟิร์น-นาย ณภัทร กลับจากทริปสวีทหวานที่สวิส กลับมีข่าวลือลั่นว่าทั้งคู่เลิกรากัน และกลายเป็นเรื่องราวที่หลายคนต่างรอคำตอบและคาดหวังว่าให้เรื่องนี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ จนล่าสุด ในวันที่ 4 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา นาย ณภัทร ได้ออกมาแถลงถึงข่าวลือดังกล่าวว่าทั้ง ใบเฟิร์น-นาย ได้ยุติความสัมพันธ์แล้ว แต่ยังคงมีมิตรภาพดีๆ ต่อกัน และเผยว่าใบเฟิร์นคือผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตของตน ข่าวนี้กลายเป็นประเด็นที่ทำให้หลายๆ คนที่คอยตามเชียร์คู่นี้เศร้าไปตามๆ กัน และมีชาวเน็ตมากมายแห่ไปถล่มโซเชียลของ แม่หมู พิมพ์ผกา แม่ของหนุ่มนายอย่างหนัก เพราะเชื่อกันว่า แม่หมู คืออีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ใบเฟิร์น-นาย เลิกกัน หลัง นาย ณภัทร แถลงข่าวจบ มดดำ คชาภา และ น็อต วรฤทธิ์ นักแสดงพิธีกรชื่อดัง ได้เผยมุมมองต่อเรื่องราวของใบเฟิร์นและนาย ในรายการ แฉ และเรื่องของแม่หมู พิมพ์ผกา รวมถึงรายละเอียดเรื่องรถที่หนุ่มนายประกาศขาย ว่าแท้จริงแล้วทุกเรื่องที่ทุกคนโยงกันมีที่มาอย่างไร โดยมดดำพูดถึงเรื่องนี้ว่า “จริงๆ แล้ว หมู พิมพ์ผกา เป็นคนที่เข้าใจมนุษย์ บางคนว่าไปว่าหมู เหมือนคนเป็นบ้าหวงลูกชาย นางไม่ขนาดนั้น แต่ยอมรับตรงๆ ว่ามีกันมาสองคนตั้งแต่เด็กๆ คนเอาไปมิกซ์แอนด์แมตช์ เอามาใส่ทุกอย่างรวมกันหมดเลย เหงาอะไรเอามารวมกันหมด พูดตรงๆ ว่าฉันมีโอกาสคุยกับนาง คุยกับคุณนายหมูเนี่ยแหละ ไลน์คุยกัน นางก็บอกทำไมนางต้องโดนอย่างนี้ คนจะไปรู้อะไรเขาคบกัน เหมือนกับข่าวขายรถ นางบอกคนบอก นายยอมขายรถซูเปอร์คาร์ เพื่อเอาเงินมาเปย์ ใบเฟิร์น จริงหรือเปล่า รายได้ใบเฟิร์น ขนาดไหนก่อน” น็อต วรฤทธ์ เผยในเรื่องขายรถของนายว่า “ความจริง คือ ภูริ (หิรัญพฤกษ์) ไปตื๊อซื้อ ภูริ ซื้อไป คันนี้ ภูริ อยากได้มานานแล้ว ตื๊อจีบน้องนายมานาน เอาพี่เอา แต่ยังไม่มีตังค์นะ พอเริ่มมีสักก้อนขอซื้อต่อเลย เพราะมันเป็นรถโบราณ ปอร์เช่โบราณ เขาขายคันรุ่นเก่า แต่คันรุ่นใหม่เขายังอยู่” ด้าน มดดำ เสริมอีกว่า “อันนี้คือเรื่องจริง อย่างที่สอง ที่นายขายเพราะคนทำบ้าน คิดดูเวลาทำบ้าน ต่อให้รวย นอกจากต้องมีเงินก้อนแล้ว มันมีบานปลาย เขาก็หาเงินจะไปโปะทำบ้าน บอกเอาไปขายให้เฟิร์นหรือเปล่า ขอโทษนะ เฟิร์น รายได้เท่าไหร่ รายรับพรีเซ็นเตอร์อย่างเดียวก็เท่าไหร่แล้ว” ขอบคุณภาพประกอบจากรายการ แฉ
2024-12-27
Safety starts with understanding how developers collect and share your data. Data privacy and security practices may vary based on your use,region, and age. The developer provided this information and may update it over time.
Learn more about how developers declare sharing
Location, Personal info and 5 others
See details