ย้อน หลัง ฮานอย วี ไอ พี
ย้อน หลัง ฮานอย วี ไอ พี
Verified by App
Verified by App
4084K reviews
Downloads
Rated for 4084+
ย้อน หลัง ฮานอย วี ไอ พีอันยองแฟนๆ “บันเทิงเดลินิวส์” ที่น่ารักทุกท่าน มาพบเจอกับ “นูน่าเมี้ยน” อีกเช่นเคยนะคะ และแน่นอนเจอกันแบบนี้ต้องมาพร้อมกับความเอ็กซ์คลูซีฟของวงการบันเทิง K-Pop นักแสดง ไอดอลเกาหลีในรอบสัปดาห์ที่จะมาอัปเดตผ่านคอลัมน์ปังๆ อย่าง “SeoulStation” ซึ่งในสัปดาห์นี้นูน่าก็ยังขนเอาความพิเศษมาฝากอีกเช่นเคยกับเรื่องราวของรายการวาไรตี้แบบไม่มีสคริปต์จากเกาหลี “Jinny’s Kitchen 2” ที่จะพาไปตามติดภารกิจเปิดร้านอาหารเกาหลีในต่างประเทศของเหล่านักแสดงชื่อดัง ซึ่งเป็นรายการซีซั่นใหม่ต่อเนื่องจากซีซั่นแรกที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ชม โดยในซีซั่นที่แล้วมีนักแสดงที่เข้าร่วมรายการ ได้แก่ “อีซอจิน”, “จองยูมี”, “พัคซอจุน”, “ชเวอูชิก” และ “วี” จากวง “BTS” โดยพวกเขาได้ร่วมกันเปิดร้านอาหารสตรีทฟู้ดเกาหลีในเมืองบาคาลาร์ ประเทศเม็กซิโก ส่วนในซีซั่นใหม่พร้อมให้รับชมแล้วบน Prime Videoและจะมี “อีซอจิน”, “จองยูมี”, “พัคซอจุน”, “ชเวอูชิก” และสมาชิกคนใหม่อย่างนักแสดงสาว “โกมินซี” ซึ่งเป็นที่รู้จักจากผลงานการแสดงจากซีรีส์ “Youth of May” มาร่วมทีมในฐานะน้องใหม่อีกด้วย โดยซีซั่นนี้ พวกเขาจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเปิดร้านอาหารเกาหลีในเมืองเรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีการเปลี่ยนเปลี่ยนชวนติดตามหลายอย่าง ตั้งแต่บทบาทหน้าที่ใหม่ เมนูอาหารใหม่ และการปรับเปลี่ยนบางอย่างในครัว ผู้ชมจะได้เพลิดเพลินไปกับเคมีที่เข้ากันระหว่างนักแสดง การผจญภัยเพื่อเปิดร้านในสถานที่ใหม่ และทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเรคยาวิก งานนี้ “นูน่าเมี้ยน” ก็มีโอกาสได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวรายการ “Jinny’s Kitchen 2” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา นูน่าเลยไม่พลาดที่จะนำบทสัมภาษณ์สนุกๆ ของพวกเขามาฝากกันก่อนที่จะได้รับชมรายการกันด้วย! ตั้งแต่จบ “Jinny’s Kitchen” ซีซั่นแรก แฟนๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะได้ชมซีซั่นสองกันเยอะมาก ในฐานะโปรดิวเซอร์และผู้กำกับ คุณรู้สึกยังไงบ้างที่ในที่สุดก็ได้กลับมาแล้ว? นายองซอก : “ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าจะกังวลนะครับ เพราะว่านี่เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งกับนักแสดงทีมเดิมที่เคยทำงานด้วยกันมาก่อน ในซีซั่นนี้เราได้สมาชิกใหม่อย่างโกมินชีมาร่วมทีมด้วย ก็เป็นอีกเรื่องที่ตื่นเต้นและยินดีมากครับที่จะได้นำเสนอให้คนดูได้เห็นว่าเธอสร้างการเปลี่ยนแปลงในทีมของเรายังไงบ้าง” สำหรับสมาชิกเดิมของร้าน “Jinny’s Kitchen” พวกคุณรู้สึกยังไงบ้างที่ในซีซั่นนี้สมาชิกในทีมจะได้ผลัดกันเป็นเชฟ และต้องทำเมนูพิเศษของตัวเอง? พัคซอจุน: “การที่เราได้เปลี่ยนบทบาททุกวันคือสิ่งที่ผมชอบในซีซั่นนี้เลยครับ มันทำให้รู้สึกสดชื่นไม่จำเจ เวลาอยู่นอกครัวผมจะรู้สึกกดดันน้อยลง และพอได้ทำงานในครัวบ้าง นอกครัวบ้าง ก็ทำให้ได้สัมผัสความกดดันและประสบการณ์ที่ต่างกันออกไปด้วย” จองยูมี: “ฉันเป็นคนที่ใช้เวลาอยู่ในครัวมากกว่าหน้าร้าน แม้ว่าตอนที่เดินเข้าครัวครั้งแรกจะรู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่แป๊บเดียวก็ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับมัน แล้วก็รู้สึกสบายใจเวลาอยู่ในครัวมากกว่า ดังนั้นก็เลยคิดว่าจุดเด่นของตัวเองน่าจะเป็นความมั่นใจและไม่กังวลเวลาอยู่ในครัวค่ะ” ชเวอูชิก: “ซีซั่นนี้ผมได้เลื่อนตำแหน่งจากเด็กฝึกงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการ แล้วก็ได้เป็นเชฟเลยทันที ก็เลยคิดว่าตัวเองคงยังไม่ได้จุดแข็งอะไรเท่าไรหรอกครับ (หัวเราะ) จริงๆ แล้วผมกดดันมากเลย เพราะถึงยังไงมันก็เป็นการเปิดร้านอาหารจริงๆ ดังนั้นในฐานะเชฟผมจะทำพลาดไม่ได้ มันทำให้ผมกดดันแต่ในขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้จากการสลับสับเปลี่ยนหน้าที่ในแต่ละวัน อีกอย่างคือผมมีซูเปอร์พนักงานฝึกหัด (โกมินชี) มาทำงานด้วย เธอช่วยผมได้เยอะมากเลยครับ” “นายองซอก” คุณพอจะเล่าเรื่องการคัดเลือกพนักงานฝึกหัด น้องเล็กคนใหม่ของทีมให้ฟังหน่อยได้ไหม คุณคิดว่าอะไรคือความแตกต่างระหว่าง “โกมินชี” กับ “แทฮยอง” (วี BTS) พนักงานฝึกหัดของซีซั่นที่แล้วบ้าง? นายองซอก: “เราใช้ความพยายามอย่างมากเลยครับในการมองหาสมาชิกน้องใหม่ โกมินชีเป็นนักแสดงที่เก่งและประสบความสำเร็จมาก แล้วเราก็ค้นพบด้วยว่าเธอไม่ได้เริ่มต้นอาชีพแรกของเธอไม่ใช่การเป็นนักแสดง แต่เคยทำงานหลายอย่างมาก่อน เธอเคยทำงานในบริษัทรับจัดงานแต่งงานมาก่อนด้วย ดังนั้นพอเห็นประวัติการทำงานที่โดดเด่นของมินชี เราก็เลยติดต่อไปหาเธอเพราะคิดว่านี่คือคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบริษัทของเรา และเธอก็ตอบตกลงมาร่วมทีมกับเราครับ” “จองยูมี” คุณมีประสบการณ์ในร้านอาหารมาเยอะมาก ช่วยเล่าบรรยากาศในกองให้ฟังหน่อย และคุณมีแผนที่จะแยกตัวไปทำร้านของตัวเองในอนาคตหรือเปล่า? จองยูมี: “เนื่องจากเราทำงานด้วยกันมานาน ถึงแม้ว่างานจะเยอะแต่บรรยากาศในกองก็ดีมากๆ เลยค่ะ เราช่วยเหลือและพึ่งพากันตลอด ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เจอเพื่อนร่วมงานที่น่ารักใจดีทั้งนั้นเลย ส่วนเรื่องการแยกตัวออกไปเป็นอิสระ บอกตรงๆ เลยค่ะว่าฉันคิดว่าตัวเองไม่มีความเป็นผู้นำเท่าไร จริงๆ คือฉันอยากทำงานให้คุณซีอีโออีซอจินมากกว่าจะเป็นซีอีโอเองนะคะ” “พัคซอจุน” ในตัวอย่างรายการคุณทำงานหนักมากจนอยากจะให้ช่อง tvN มีรางวัลธุรกิจร้านอาหารดีเด่นมอบให้พวกคุณเลยทีเดียว อยากรู้ว่าถ้าคุณได้เป็นหนึ่งในแคนดิเดต ใครคือคู่ต่อสู้ของคุณคะ? พัคซอจุน: “เอาจริงๆ ผมคิดว่าบรรยากาศมันคงพาไปตอนที่ผมพูดน่ะครับ (หัวเราะ) พอรับออร์เดอร์ในครัวไปนานถึงจุดหนึ่ง จู่ๆ ความคิดนี้มันก็แวบเข้ามา อีกอย่างคือตอนนี้มีรายการที่เกี่ยวกับร้านอาหารหลายรายการเลย ดังนั้นถ้าจะต้องแข่งกับใคร ผมคิดว่าผมขอแข่งกับตัวเองใน Jinny’s Kitchen ซีซั่นที่แล้วก็พอครับ เพราะว่าตอนไปไอซ์แลนด์รอบนี้ผมเริ่มรู้สึกว่ารักษาพลังงานไว้ไม่ค่อยได้ เมื่อก่อนเวลาเหนื่อย ผ่านมาอีกวันผมก็รู้สึกโอเคแล้ว แต่ซีซั่นนี้วันต่อมาผมยังเหนื่อยมากอยู่เลยครับ ดังนั้นผมขอแค่แข่งกับตัวเองเมื่อปีสองปีที่แล้วให้ได้ก็พอครับ “โกมินชี” คุณรู้สึกมั่นใจตลอดเลยไหมเวลาทำอาหาร รู้สึกยังไงบ้างกับการทำงานร่วมกับสมาชิกในทีมแต่ละคน? โกมินชี: “ฉันไม่ได้มั่นใจในการทำอาหารเลยค่ะ ฉันแค่ทำในสิ่งที่พวกเขาบอกให้ทำและทำให้เร็ว นั่นคือสิ่งที่ฉันมั่นใจค่ะ ฉันเคยเจอพี่อูชิกกับพี่ยูมีมาก่อน ส่วนซีอีโออีซอจินก็เป็นคนตลกมากเลยค่ะ ฉันรู้สึกแปลกใจมากที่ได้รู้ว่าเขาตลกขนาดไหน เขาเป็นคนพูดน้อยแต่ว่าตลกมาก มุกที่เขาพูดออกมาแบบไม่แยแสมันฮามาก ส่วนพี่ยูมี ฉันต้องพึ่งพี่เขาหลายอย่างเลยค่ะ ฉันดีใจที่ได้เป็นลูกน้องของพี่ ตอนที่พี่ยูมีได้เป็นเชฟประจำวัน ฉันจะรู้สึกสงบและโล่งใจ อีกอย่างคือพี่เขาหั่นผักสวยมากเลยค่ะ แล้วคุณจะได้เห็นในรายการ สำหรับพี่ซอจุน ฉันรู้สึกได้ถึงพลังของเขาแค่มองจากข้างหลังเลยค่ะ ทั้งความจริงใจ แพสชั่น และพลังงานที่ใส่ลงไปในการทำอาหาร ฉันรู้สึกนับถือพี่เขาที่สุดเลยค่ะ แล้วเขาก็ทำงานเร็วมากด้วย เหมือนกับว่าพี่เขามีตามองเห็นได้จากทุกทางอะไรอย่างนั้น ส่วนพี่อูชิก เขาเป็นคนตลกค่ะ ฉันหยุดหัวเราะไม่ได้เลยเวลาอยู่กับเขา (หัวเราะ) มันทำให้ฉันถ่ายรายการได้แบบไม่เกร็ง อีกอย่างคือเขาจะเข้ามาเช็กตลอดว่าฉันเป็นยังไงบ้าง ได้กินน้ำบ้างหรือยัง อะไรแบบนี้” สุดท้ายนี้ อยากให้ตัวแทนทีมนักแสดง ฝากผลงานกับผู้ชมสักหน่อย? ชเวอูชิก: “ครั้งนี้พวกเราบินไปไกลกันถึงไอซ์แลนด์เลย เพื่อให้คนดูได้ชมรายการที่สนุกสนาน ผมหวังว่ารายการของเราจะสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับคนดู และช่วยให้คุณเย็นใจในฤดูร้อนที่อบอ้าวนะครับ” โกมินชี: “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้าร่วมรายการ Jinny’s Kitchen 2 ในฐานะมักเน่ซูเปอร์เด็กฝึกงานของทีม (maknae superintern) ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากเลยค่ะ อยากจะให้ทุกคนติดตามการทำงานของฉันและส่งกำลังใจให้กันด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ” บอกเลยว่าแค่อ่านบมสัมภาษณ์ก็สนุก และน่าดูขนาดนี้แล้ว และต่อไปนี้ “นูน่าเมี้ยน” จะสรุป 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดชมซีซั่นที่สองของรายการวาไรตี้ยอดฮิตรายการนี้! 1. บรรยากาศถ่ายทำในดินแดนใหม่ “ไอซ์แลนด์” ซึ่งที่นั่นไม่มีร้านอาหารเกาหลีที่เจ้าของเป็นคนเกาหลีเลย และเนื่องจากเป้าหมายของรายการคือการแบ่งปันอาหารเกาหลีในต่างประเทศ จึงเลือกที่จะเปิดร้านอาหารในเมืองหลวงของไอซ์แลนด์แห่งนี้ นอกจากนี้วิวทิวทัศน์ที่ปกคลุมด้วยหิมะของไอซ์แลนด์ ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีหลีกหนีจากฤดูร้อนที่อบอ้าวที่ไม่เลวเลย 2. “เคมีที่สั่งสมยาวนาน” จนกลายเป็นมิตรภาพเหนียวแน่นที่หาไม่ได้ง่ายๆ ทีมนักแสดงของ Jinny’s Kitchen 2 เคยร่วมงานกันมาก่อนในรายการอื่นๆ เช่น รายการ Youn’s Kitchen 3. เด็กฝึกงานน้องใหม่ “โกมินชี” นอกจากทีมนักแสดงที่แฟนๆ หลงรักและคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว ในซีซั่นนี้เรายังจะได้พบกับเด็กฝึกงานคนใหม่ที่มาเข้าร่วมทีมอย่าง โกมินชี อีกด้วย 4. “เชฟประจำวัน” อีกหนึ่งมิติใหม่ที่จะสร้างความเพลินใจให้ผู้ชมในซีซั่น ก็คือการได้เห็นสมาชิกในทีมผลัดกันเป็นเชฟประจำวัน 5. “มากกว่าแค่ร้านอาหาร” แต่คือประสบการณ์อบอุ่นใจ Jinny’s Kitchen 2 นั้น แตกต่างจากรายการร้านอาหารทั่วๆ ไปที่คุณเคยได้รับชม การเดินทางของเหล่านักแสดง จะทำให้คุณเกิดอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายและประสบการณ์ฟีลกู๊ดกลับไป ได้รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารีรอ ไปรับชม Jinny’s Kitchen 2 กันเลย ที่ Prime Video เท่านั้น!. คอลัมน์ “SeoulStation”โดย “นูน่าเมี้ยน”
ย้อน หลัง ฮานอย วี ไอ พีSeoulStation : ‘พัคซอจุน-จองยูมี-โกมินซี’แทคทีมเสิร์ฟความสนุกใน ‘Jinny’s Kitchen 2’
ย้อน หลัง ฮานอย วี ไอ พีไม่พูดถึงไม่ได้เลยสำหรับการเปิดตัว “SEASON FIVE” ในบ้านหลังใหม่อย่าง LOVEiS ENTERTAINMENT อย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าเป็นวงดนตรี a cappella แนวหน้าของวงการประสานเสียงแรกๆ ในไทยที่ผสมผสานระหว่างดนตรีป็อป โซล เข้ามาอยู่ในเพลงทำให้เพลงของพวกเขาโดดเด่นและมีลายเซ็นเฉพาะตัว กับสมาชิกที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตา อย่าง เอก – สุดเขต จึงเจริญ (ร้อง), เจ –เอกพล สถิรากร (ร้อง), จั๊ก – สิโรดม หล่อกัณภัย (ร้อง -คีย์บอร์ด), เปา – บวร อัจฉรารัตนโสภณ (ร้อง -กีต้าร์) ซึ่งก่อนหน้าได้ฝากเพลงฮิตมากมายอย่าง หลังจากที่ได้เดินทางผ่านมาหลายฤดูกาล ในวงการดนตรีมาอย่างยาวนาน ถึง 15 ปี พวกเขากลับมาแล้วพร้อมด้วยซิงเกิลแรกหลังจากห่างหายไปสองปีกับเพลง “ไม่เป็นอะไรเพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน” “ไม่เป็นอะไรเพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน” “Close Friends” ไอเดียเพลงนี้พูดถึงความสัมพันธ์แบบ “Situationship” เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียกที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีต่อกัน ชอบการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ไม่สามารถเป็นอะไรได้มากกว่านั้น และไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรจากอีกฝ่ายเพราะ “เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” เหมือนจุดก้ำกึ่งระหว่างเพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ไม่เชิง ที่ต้องอยู่แค่ในพื้นที่ ที่รู้กันแค่สองคนแค่นั้น ถ้าใครรู้สึกมากกว่าก่อนก็ต้องบอกตัวเองไว้ว่า “คุณไม่มีสิทธิ์เจ็บ” ในส่วนพาร์ทของดนตรีเป็นเพลงป๊อปร็อกที่มีลายเซ็น a cappella ของ SEASON FIVE อยู่เต็มเปี่ยม และยังมีท่อนฮุคติดหู โดยที่วงได้ร่วมดีไซน์ดนตรีและเมโลดี้กับ กัน วง MEAN ที่รับหน้าที่มาเป็นโปรดิวเซอร์ในเพลงนี้ ซึ่งได้ยกระดับดนตรีให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น ซึ่งเนื้อเพลงก็ได้ เอก สุดเขต และ แอ้ม อัจฉริยา นักแต่งเพลงที่หลายคนรู้จักมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานในเพลงนี้ บวกกับเทคนิคการร้องที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ SEASON FIVE ทำให้เพลงนี้ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ
ย้อน หลัง ฮานอย วี ไอ พี‘ดีเจดาด้า’ เผยจุกในใจ หลัง ‘นาย-ใบเฟิร์น’ ประกาศสิ้นสุดทางแฟน!
2024-12-31
Safety starts with understanding how developers collect and share your data. Data privacy and security practices may vary based on your use,region, and age. The developer provided this information and may update it over time.
Learn more about how developers declare sharing
Location, Personal info and 5 others
See details